วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ

Information Technology
1. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology)

        ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมประมวล เก็บรักษาและเผยแพร่ข้อมูลและสารสนเทศโดยรวมทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ฐานข้อมูลและการสื่อสาร โทรคมนาคม

2. ความหมายของข้อมูลและสารสนเทศ
        ระบบสารสนเทศสร้างขึ้นมาเพื่อจุดมุ่งหมายหลายประการจุดมุ่งหมายพื้นฐานประการหนึ่ง คือ การประมวลข้อมูล (Data) ให้เป็นสารสนเทศ (Information) และนำไปสู่ความรู้ (Knowledge) ที่ช่วยแก้ปัญหาในการดำเนินงาน

3. ความหมายของข้อมูล
        ข้อมูลคือ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ หรือข้อมูลดิบที่ยังไม่ผ่านการประมวลผลยังไม่มีความหมายในการนำไปใช้งาน ข้อมูลอาจเป็นตัวเลข ตัวอักษร สัญลักษณ์รูปภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหว

4. ความหมายของสารสนเทศ
        สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่ได้ผ่านการประมวลผลหรือจัดระบบแล้ว เพื่อให้มีความหมายและคุณค่าสำหรับผู้ใช้

5. ลักษณะสารสนเทศที่ดี
เนื้อหา (Content)
·         ความสมบูรณ์ครอบคลุม (completeness)
·         ความสัมพันธ์กับเรื่อง (relevance)
·         ความถูกต้อง (accuracy)
·         ความเชื่อถือได้ (reliability)
·         การตรวจสอบได้ (verifiability)
รูปแบบ (Format)
·         ชัดเจน (clarity)
·         ระดับรายละเอียด (level of detail)
·         รูปแบบการนำเสนอ (presentation)
·         สื่อการนำเสนอ (media)
·         ความยืดหยุ่น (flexibility)
·         ประหยัด (economy)
เวลา (Time)
·         ความรวดเร็วและทันใช้ (timely)
·         การปรับปรุงให้ทันสมัย (up-to-date)
·         มีระยะเวลา (time period)
กระบวนการ (Process)
·         ความสามารถในการเข้าถึง (accessibility)
·         การมีส่วนร่วม (participation)
·         การเชื่อมโยง (connectivity)

6. ความหมายของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information System)
        ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ คือ ระบบที่รวบรวม ประมวล เก็บรักษาและเผยแพร่สารสนเทศ เพื่อใช้ในการวางแผน การพัฒนาตัดสินใจ ประสานงานและควบคุมการดำเนินงาน

7. องค์ประกอบระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์
        ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการที่ใช้คอมพิวเตอร์ (Computer-based information systems CBIS)มีองค์ประกอบที่สำคัญ 6 ส่วนคือ ฮาร์ดแวร์ (hardware) ซอฟต์แวร์ (software) ฐานข้อมูล (database) เครือข่าย (network) กระบวนการ (procedure) และคน (people)
- ฮาร์ดแวร์ (Hardware)ได้แก่ อุปกรณ์ที่ช่วยในการป้อนข้อมูล ประมวลจัดเก็บ และ ผลิต เอาท์พุทออกมาในระบบสารสนเทศ
- ซอฟต์แวร์ (Software)ได้แก่ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ช่วยให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน
- ฐานข้อมูล (Database) คือ การจัดระบบของแฟ้มข้อมูล ซึ่งเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน
- เครือข่าย (Network)คือ การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเพื่อช่วยให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน และช่วยการติดต่อสื่อสาร
- กระบวนการ (Procedure)ได้แก่ นโยบาย กลยุทธ์ วิธีการ และกฎระเบียบต่างๆ ในการใช้ระบบสารสนเทศ
- คน (People)เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในระบบสารสนเทศ ซึ่งได้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องในระบบสารสนเทศ เช่น ผู้ออกแบบ ผู้พัฒนาระบบ ผู้ดูแลระบบและผู้ใช้ระบบ

ระบบสารสนเทศ
หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์


Software
8. ประโยชน์ของระบบสารสนเทศ
ประสิทธิภาพ (Efficiency)
•  ระบบสารสนเทศทำให้การปฏิบัติงานมีความรวดเร็วมากขึ้นโดยใช้กระบวนการประมวลผลข้อมูลซึ่งจะทำให้สามารถเก็บรวบรวมประมวลผลและปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยได้อย่างรวดเร็วระบบสารสนเทศช่วยในการจัดเก็บข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ หรือมีปริมาณมากและช่วยทำให้การเข้าถึงข้อมูล (access) เหล่านั้นมีความรวดเร็วด้วย
•  ช่วยลดต้นทุนการที่ระบบสารสนเทศช่วยทำให้การปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลซึ่งมีปริมาณมากมีความสลับซับซ้อนให้ดำเนินการได้โดยเร็วหรือการช่วยให้เกิดการติดต่อสื่อสารได้อย่างรวดเร็วทำให้เกิดการประหยัดต้นทุนการดำเนินการอย่างมาก
•  ช่วยให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็วการใช้เครือข่ายทางคอมพิวเตอร์ทำให้มีการติดต่อได้ทั่วโลกภายในเวลาที่รวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการติดต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยกัน (machine to machine) หรือคนกับคน (human to human) หรือคนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ (human to machine) และการติดต่อสื่อสารดังกล่าวจะทำให้ข้อมูลที่เป็นทั้งข้อความ เสียง ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวสามารถส่งได้ทันที
•  ระบบสารสนเทศช่วยทำให้การประสานงานระหว่างฝ่ายต่าง ๆเป็นไปได้ด้วยดีโดยเฉพาะหากระบบสารสนเทศนั้นออกแบบเพื่อเอื้ออำนวยให้หน่วยงานทั้งภายในและภายนอกที่อยู่ในระบบของซัพพลายทั้งหมด จะทำให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้และทำให้การประสานงาน หรือการทำความเข้าใจเป็นไปได้ด้วยดียิ่งขึ้น
ประสิทธิผล (Effectiveness)
•  ระบบสารสนเทศช่วยในการตัดสินใจ ระบบสารสนเทศที่ออกแบบสำหรับผู้บริหาร เช่นระบบสารสนเทศที่ช่วยในการสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision support systems) หรือระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (Executive support systems)จะเอื้ออำนวยให้ผู้บริหารมีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจได้ดีขึ้น อันจะส่งผลให้การดำเนินงานสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ไว้ได้
•  ระบบสารสนเทศช่วยในการเลือกผลิตสินค้า/บริการที่เหมาะสมระบบสารสนเทศจะช่วยทำให้องค์การทราบถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนราคาในตลาดรูปแบบของสินค้า/บริการที่มีอยู่หรือช่วยทำให้หน่วยงานสามารถเลือกผลิตสินค้า/บริการที่มีความเหมาะสมกับความเชี่ยวชาญ หรือทรัพยากรที่มีอยู่
•  ระบบสารสนเทศช่วยปรับปรุงคุณภาพของสินค้า/บริการให้ดีขึ้นระบบสารสนเทศทำให้การติดต่อระหว่างหน่วยงานและลูกค้า สามารถทำได้โดยถูกต้องและรวดเร็วขึ้นดังนั้นจึงช่วยให้หน่วยงานสามารถปรับปรุงคุณภาพของสินค้า/บริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้นและรวดเร็วขึ้นด้วย
•  ความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage)

•  คุณภาพชีวิตการทำงาน (Quality o f Working Life) 

Memory Flash

หาข้อมูล Memory Flash
Memory Card ในยุคเริ่มแรกอาจจะมีความจุไม่กี่ร้อยเม็กกะไบท์ (MB) แต่ปัจจุบันมีขนาดเกินหลัก GB ไปจนถึง TB แล้วแต่ขนาดที่นิยมมากในตลาดทั่วๆไป มีตั้งแต่ 2GB, 4GB, 8GB, 16GB, 32GB, 64GB
Compact Flash Card (CF Card)
เป็นหน่วยความจำแบบที่นิยมกันมากที่สุด มีขนาดเล็ก เบา ราคาถูกรวมทั้งยังทนทานเป็นพิเศษ มีความจุตั้งแต่ 8 เมกะไบต์ จนถึง 3 กิกะไบต์จุดเด่นของ CF card คือ มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลสูง โดย CF card จะมี 2 รูปแบบคือ Type 1 และ Type 2 Type II จะมีความหนามากกว่า  มีความจุมากขึ้น และประมวลผลได้เร็ว มีใช้ในฮาร์ดดิสก์ขนาดจิ๋วอุปกรณ์ที่นิยมใช้ CF card ส่วนใหญ่จะเป็น กล้องดิจิตอล และคอมพิวเตอร์พกพา ที่เห็นได้ชัดก็คือ กล้อง Canon จะใช้ CF card เป็นตัวเก็บภาพแทบทุกรุ่น
 
Multimedia Memory Card (MMC card)
หน่วยบันทึกข้อมูลประเภทนี้เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือหรือเครื่องเล่น MP3 มาก่อน แต่ด้วยข้อจำกัดของ MMC card คือมีราคาค่อนข้างแพง มีความจุไม่ค่อยสูงมากนักซึ่งในอนาคตอาจจะถูกแทนที่ด้วยการ์ดหน่วยความจำแบบ SD Card ในไม่ช้าแต่ที่ยังคงมีการใช้งาน MMC Card กันอยู่จนถึงทุกวันนี้ก็เนื่องจาก MMC Card นั้นสามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์ที่รองรับ SD Card ได้ด้วยโดยอุปกรณ์ที่นำ MMC Card ไปใช้งานนั้นก็มักจะเป็นอุปกรณ์พกพาขนาดเล็กต่างๆเช่น โทรศัพท์มือถือ, เครื่องพีดีเอ, เครื่องเล่นเพลง MP3 หรือกล้องดิจิตอล จากที่กล่าวไว้ข้างต้นคือ อุปกรณ์ใดที่มีสล็อตของ SD Card ก็มักจะสามารถนำ MMC Card มาใส่ได้โดยปริยาย เนื่องจากความกว้างและยาวของ MMC Card นั้นเท่ากันกับ SD Card รวมถึงมีขาขั้วต่อ (Pins) รูปแบบเดียวกันเพียงแต่ MMC Card จะมีความหนาที่น้อยกว่า SD Card อยู่เล็กน้อย

Memory Stick
เป็นหน่วยความจำที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นโดย Sony เพื่อใช้กับกล้องดิจิตอล, เครื่องเล่นเพลง, โทรศัพท์มือถือ, เครื่องเล่นเกมส์PlayStation, VAIO notebook ของค่าย Sony โดยเฉพาะ ซึ่ง sonyได้ทำการพัฒนาออกมาหลายรุ่นด้วยกัน เช่น Memory Stick, Memory Stick Duo (มีระบบป้องกันข้อมูลในส่วนของ Memory Stick MagicGate), Memory Stick with memory selection function Total 256 mb (128 mb x 2), Memory Stick Pro, Memory Stick Pro Duo (มีระบบป้องกันข้อมูลในส่วนของ Memory Stick MagicGate)
ลักษณะของ Memory Stick  มีรูปร่างเป็นแท่งแบนยาว มีขนาด 50 x 21.5 x 2.8 มิลลิเมตร สามารถรองรับการบันทึก/จัดเก็บข้อมูลได้มากถึงระดับ GB ลักษณะเด่นและมีความเร็วในการบันทึกและการถ่ายโอนข้อมูลที่สูงระดับ 1.3 MB ต่อวินาที ซึ่งสูงกว่าหน่วยความ SD card หรือ MMC card แบบธรรมดา  ช่วยให้การเขียนอ่านข้อมูลทำได้ด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ Memory Stick ไม่ค่อยได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้ทั่วไปเท่าใดนักเนื่องจากราคาที่ค่อนข้างสูง


SD card (Secure Digital Card)

เป็นหน่วยความจำที่พัฒนาร่วมกันโดย Matsushita SanDisk และ Toshiba ถือได้ว่าเป็นหน่วยความจำที่นิยมนำมาใช้กับอุปกรณ์พกพาขนาดเล็กต่างๆมากที่สุดในหลายประเภทของอุปกรณ์ Mobile Device ไม่ว่าจะเป็น digital cameras , PDAs, GPS receivers และโทรศัพท์มือถือเกือบทุกแบรนด์จะนิยมใช้ SD Card กัน ซึ่ง SD Card นับเป็นสื่อบันทึกข้อมูลที่แพร่หลายกันมากที่สุดมีการผลิตในหลายบริษัท  จะอยู่ภายใต้การกำกับมาตรฐานโดย  SD Association



ด้วยปริมาณความต้องการในการใช้งาน SD Card มีความต้องการความจุที่สูงขึ้นทำให้มีการกำหนดมาตรฐานรองรับจาก SD Card รุ่น Standard เดิมที่ความจุไม่เกิน 2 GB (Fat 12/16) มาสู่มาตรฐานใหม่อีก 2 มาตรฐานคือ SDHC (Secure Digital High Capacity) ความจุ 2GB-32GB และ SDXC ที่มีความจุ 32 MB-2TB

SD Card ในทุกมาตรฐานจะถูกออกแบบมาใน 3 ขนาด คือ
    1. Full Size SD
    2. MiniSD
    3. MicroSD
รายละเอียดตามตารางด้านล่าง
ปัจจุบันทั้ง MiniSD / MicroSDได้ถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์โทรศัพท์ต่างๆรวมถึง Tablet PC ในเกือบทุกรุ่น ถือได้ว่า SD Card เป็นหน่วยบันทึกข้อมูลที่นิยมใช้งานมากที่สุด เนื่องจากขนาดที่เล็กราคาไม่สูง ใช้งานได้หลากหลาย ใช้ได้กับกล้องถ่ายภาพหลายยี่ห้อรวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ แถมยังมีหลายขนาด ทั้งแบบปกติ, miniSD, microSDเพื่อให้รองรับกับอุปกรณ์แต่ละประเภท
นอกจากนี้การ์ด SD ทั้ง 3 แบบดังที่กล่าวมาในข้างต้นทั้งการ์ด SD ความจุมาตรฐาน , SDHC หรือ High-Capacity, SDXC หรือ eXtended-capacity ก็จะมีคุณลักษณะเฉพาะในความเร็วของการบันทึกหรือการอ่านที่แตกต่างกันไปตามพัฒนาการในแต่ละช่วงปีตามวิวัฒนาการ
ซึ่งการ์ดแต่ละตัวจะมีการบ่งบอกความเร็วของการ์ด ที่เรียกว่า Speed Class ด้วยตัวอักษรตัว C ซึ่งความเร็วเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการอ่านข้อมูลในการ์ดหน่วยเป็นจำนวน MB ต่อวินาที สามารถแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ  ดังนี้
          Speed Class 2   มีความเร็วในการอ่านข้อมูล   2MB/วินาที
          Speed Class 4   มีความเร็วในการอ่านข้อมูล   4MB/วินาที
          Speed Class 6   มีความเร็วในการอ่านข้อมูล   6MB-12MB/วินาที
          Speed Class 10 มีความเร็วในการอ่านข้อมูล 10MB-25MB/วินาที
 มาตรฐาน Speed Class 10 ไม่เพียงพอต่อเทคโนโลยีการส่งผ่านข้อมูลเพื่อการจัดเก็บที่มีพัฒนาการสูงขึ้น ทำให้ได้มีการกำหนดมาตรฐานเพิ่มเติมที่เรียกว่า UHS Speed Class จะเป็นอักษรตัว U
ลักษณะ pin ด้านหลังของ SD Card ซึ่ง UHS-II จะมี pin interface  2 แถวในการเลือกใช้ UHS Speed Class นั้น อุปกรณ์ที่ท่านใช้ต้องรองรับเทคโนโลยีนี้ด้วยเช่นกัน เพราะจะมีส่วนเชื่อมต่อ interface พิเศษแถวที่ 2 ทำให้การเขียนอ่านที่ความเร็วสูงสุดได้


บางบริษัทได้ออกแบบให้ SD Card Class 10 สามารถใช้ร่วมกับมาตรฐาน UHS-I ด้วยความเร็วขั้นต่ำในการอ่านข้อมูลที่ 25MB/วินาที หากใช้เทคโนโลยี UHS-I จะสามารถใช้ความเร็วสูงสุดถึง 104 MB/s
  อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการ์ด SD คุณภาพดีแค่ไหนก็ตาม หากคุณภาพของ Mobile Device ที่ท่านใช้ ไม่ว่าจะเป็น กล้อง หรือคอมพิวเตอร์ หรือ Smartphone ที่ไม่สามารถรองรับการ์ด SD ได้ ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร (แต่ส่วนใหญ่ปัจจุบัน มาตรฐานรองรับถึง class 10 แทบทั้งสิน
นอกจาก SD Card ที่นิยมใช้ในอุปกรณ์เกือบทุกประเภทแล้วก็ยังมีหน่วยบันทึกข้อมูลที่บริษัทผู้ผลิตกล้องพัฒนาขึ้นเอง(ไม่เกี่ยวกับ smartphone) ซึ่งไม่ค่อยแพร่หลายนัก
xD Picture Card (xD Card) เป็นหน่วยความจำที่บางมากมีใช้ในกล้องดิจิตอลรุ่นเล็กของฟูจิ และโอลิมปัสถือว่าเป็นสื่อบันทึกข้อมูลน้องใหม่ มีความน่าสนใจ แต่ยังมีใช้ไม่มากนักจึงมีราคาสูงกว่า SD Card ทั่วไป

Smart Media เป็นต้นแบบของ xD Card เป็นการ์ดแบบบางเช่นกัน แต่มีความจุน้อยปัจจุบันแทบจะไม่มีกล้องดิจิตอลที่ใช้หน่วยความจำแบบนี้แล้ว